Knowledge
วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
การติดตั้งโปรแกรม Arduino IDE สำหรับใช้เขียนโปรแกรม, คอมไพล์ และอัปโหลดโปรแกรมลงบอร์ด Arduino และบอร์ดอื่นๆ
บทความการติดตั้งโปรแกรม Arduino IDE สำหรับใช้เขียนโปรแกรม คอมไพล์ และอัปโหลดโปรแกรมลงบอร์ด Arduino และบอร์ดอื่นๆ
การติดตั้งโปรแกรม Arduino IDE มีขั้นตอนดังนี้
1. เข้าไปดาวน์โหลด ArduinoIDE จากลิงค์ https://www.arduino.cc/en/main/software
1.1 กด JUST DOWNLOAD
2. เมื่อดาวโหลดเสร็จสมบูรณ์ ให้กดติดตั้ง
3. เมื่อติดตั้งเสร็จสิ้นจะได้โปรแกรม Arduino IDE ดังรูป
การตั้งค่าการใช้งานโปรแกรม Arduino IDE กับ ESP8266
การติดตั้งและตั้งค่าการใช้งานโปรแกรม Arduino IDE เพื่อใช้งานกับ ESP8266
ขั้นตอนการตั้งค่ามีดังนี้
1. เมื่อทำการติดตั้ง Arduino IDE เรียบร้อยแล้ว ให้เปิด Arduino IDE ขึ้นมา
2. ใส่ URL ลงใน Addition Board Manager URLs:
ดังนี้ http://arduino.esp8266.com/stable/package_esp8266com_index.json
- แล้วกด OK
3. จากนั้นไปที่ Menu Tools >> Board:”Arduino” >> Board Manager
4. เลือก Type เป็น Contributed
- เลื่อนลงมาที่ ESP8266
- เลือก version 2.3.0
- กด Install
- รอจนติดตั้งสำเร็จ
- จากนั้นปิดโปรแกรม Arduino IDE และเปิดขึ้นมาใหม่
5. เมื่อเปิดโปรแกรม Arduino IDE ขึ้นมาใหม่ ให้ลองไปที่ Menu Tools >> Board:”xxxxxx”
จะพบว่า มี Menu สำหรับเลือกใช้งาน ESP8266 กับ Arduino IDE ขึ้นมาให้เลือกใช้งานแล้ว
- เลือกบอร์ดที่ใช้งานโดยเข้าที่ Tool >> Board: "...." >> เลือกบอร์ด NodeMCU 1.0 (ESP8266 ESP12E Module)
6. กดเลือก Tool >> Port >> เลือก port ดังภาพ (แล้วแต่เครื่องคอม ว่าจะกำหนดให้ node mcu เป็น portไหน)
7. จากนั้นลองทดสอบการใช้งาน โดยเลือก Code ตัวอย่าง ดังนี้
File >> Example >> ESP8266WiFi >> WiFiScan
** คุณอาจเลือก Code ตัวอย่างอื่นเพื่อทดสอบการใช้งานโปรแกรมกับ node mcu V.2 ได้เลย
- จะได้ดังรูป
- จากนั้นกด Upload
- ถ้าหาก Upload โค้ต ลงบอร์ด node mcu V.2 สำเร็จ จะได้ดังภาพ
8. สามารถเปิด Serial Monitor เพื่อดูค่าที่ส่งจากบอร์ดได้ดังนี้
กดไอคอนรูปแว่นขยาย และตั้งค่า Serial Monitor ดังภาพ
- จะเห็นว่ามีค่า WiFi ที่บอร์ดหาเจอส่งมาแสดงผลยัง Serial Monitor ได้ ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนการติดตั้งและตั้งค่าการใช้งานโปรแกรม Arduino IDE เพื่อใช้งานกับ ESP8266
สมาร์ทโฮมส์ : การควบคุมไฟบ้านด้วยแอปพลิเคชัน Blynk ตอนที่1
การควบคุมไฟบ้านด้วยแอปพลิเคชัน Blynk
อุปกรณ์ที่ใช้ทำการทดลอง
1. โหนดเอ็มซียู (Node MCU V.2) 1 ชิ้น
2. สาย USB Data upload 1 เส้น
3. หลอดไฟ 220V. พร้อมขั้ว 1 ชุด
4. Relay 5V. 2 Chanal 1 ชิ้น
5. สายจั้ม ผู้-เมีย 3 เส้น
6. 400-Point Breadboard 1 ชิ้น
ขั้นตอนการทำ
1. นำมือถือที่จะใช้เป็นตัวควบคุมอุปกรณ์ ลงแอปพลิเคชัน Blynk
โดยดาวโหลดได้ฟรีทั้งระบบ IOS และ Android
2. เปิดแอปพลิเคชัน Blynk แล้วลงทะเบียนใช้งานแอปครั้งแรก หรือ Login เข้าสู่แอปกรณีเคยลงทะเบียนไว้แล้ว
3. สร้างโปรเจคขึ้นมาใหม่โดยตั้งค่าต่างๆ ดังรูปต่อไปนี้ แล้วกด Create
4. หลังกด Create จะกขึ้นหน้าแจ้งเตือนให้ทราบว่า ระบบจะส่ง Auth Key ไปยัง email ที่ได้ลงทะเบียนไว้ เพื่อนำ AUTH TOKEN ไปใส่ใน Code blynk เพื่ออัปโหลดลง Node MCU V.2
5. จากนั้นให้ทำการเพิ่มปุ่มควบคุมอุปกรณ์บนแอปในโปรเจคของเรา โดยให้ตั้งค่าดังภาพต่อไปนี้
6. เมื่อตั้งค่าเสร็จตามข้อ 5 แล้ว ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการตั้งค่าการใช้งานฝั่งแอปพลิเคชัน Blynk
วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2561
“เครือข่ายสังคมประเภทเผยแพร่ตัวตน (Identity Network)”
“เครือข่ายสังคมประเภทเผยแพร่ตัวตน (Identity Network)”
บทนำ
“เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network)” กลุ่มคนที่รวมกันเป็นสังคม
มีการทำกิจกรรมร่วมกันบนอินเทอร์เน็ตในรูปแบบของเว็บไซต์มีการแผ่ขยายออกไปเรื่อย ๆ
เป็นรูปแบบ ของการสื่อสารข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ทำให้เครือข่ายคอมพิวเตอร์หรือ อินเทอร์เน็ตเป็นสังคมขึ้นมา
การสร้าง ชุมชนใหม่บนอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือสำคัญในการติดต่อสื่อสาร สามารถทำกิจกรรมต่างๆ
ทั้งเพื่อการศึกษา ธุรกิจ และความบันเทิง
ทุกวันนี้มีคนใช้ชีวิตอยู่กับสังคมออนไลน์มากขึ้นทุกวัน
และมีการใช้ Social
Media ที่ผู้ใช้เป็นผู้สื่อสาร หรือเขียนเล่าเนื้อหา เรื่องราว
ประสบการณ์ บทความ รูปภาพ และวีดีโอ ที่ผู้ใช้เขียนขึ้นเอง ทำขึ้นเอง หรือพบเจอจากสื่ออื่นๆ
แล้วนำมาแบ่งปันให้กับผู้อื่นที่อยู่ในเครือข่ายของตนผ่านทางเว็บไซต์ Social
Network ที่ให้บริการบนออนไลน์
ปัจจุบันการสื่อสารแบบนี้ทำผ่านทาง Internet และโทรศัพท์มือถือ
เช่น กระดานความคิดเห็น เว็บบล็อก วิกิ (wiki) Podcast รูปภาพ
และวีดีโอ โดยมีเทคโนโลยีทีรี่องรับเนื้อหา
(content) เหล่านี้ได้แก่เว็บบล็อก เว็บไซต์ที่แชร์รูปภาพ แชร์เพลง แชร์วีดีโอ เว็บบอร์ด
อีเมล์ IM (Instant Massage) เครื่องมือที่ให้บริการ
เช่น Voice over IP ส่วนเว็บไซต์ที่ให้บริการ Social
Network ได้แก่ Google Group Facebook MySpace หรือ Youtube
เป็นต้น
สังคมเครือข่ายในปัจจุบัน มีอยู่มากมายหลากหลาย
Website อย่างที่เรารู้จักกันดีก็ Facebook, Hi5,
youtube ซึ่งหากจะแบ่งเป็นประเภทออกมาอย่างชัดเจนเลยนั้น
ทำได้ค่อนข้างยาก เพราะในบางตำราก็แบ่งสังคมเครือข่ายตามประเภทของเนื้อหาเช่น
เป็นเนื้อหาความรู้สื่อมัลติมีเดียต่างๆ หรือแม้กระทั่งรูปภาพ แต่ในรายงานนี้
ขอแบ่งประเภทของสังคมเครือข่ายออกตามวัตถุประสงค์ของการเข้าใช้งาน
โดยสามารถแบ่งออกได้ทั้งสิ้น 7 ประเภท ได้แก่ 1. Identity Network (สร้างและประกาศ “ตัวตน”) 2. Creative Network (สร้างและประกาศ “ผลงาน”) 3.
Passion Network (“ความชอบหรือคลั่ง” ในสิ่งเดียวกัน) 4. Collaboration Network (เวทีทำงานร่วมกัน) 5. Virtual
Reality (ประสบการณ์เสมือนจริง)
6. Professional Network (เครือข่ายเพื่อการประกอบอาชีพ) 7. Peer to Peer (P2P)
(เครือข่ายที่เชื่อมต่อกันระหว่าง Client)
“Identity Network (สร้างและประกาศ
“ตัวตน”) เป็นเว็บไซต์โซเชียลที่มุ่งเน้นการนำเสนอตัวตนของผู้ใช้งาน เรื่องราวของตัวเอง
ภาพถ่ายของตัวเอง สิ่งที่ตัวเองชอบ หรือว่าสนใจ ความคิดเห็น
ความรู้สึกที่มีต่อสิ่งต่างๆ เว็บที่มีลักษณะดังกล่าว ได้แก่ Facebook, Myspace เป็นต้น
การศึกษาถึงเรื่อง “เครือข่ายสังคมประเภทเผยแพร่ตัวตน
(Identity Network)” ถือเป็นข้อมูลความรู้ที่มีประโยชน์ตั้งแต่เรื่องเครือข่ายสังคมประเภทเผยแพร่ตัวตน
(Identity Network)..ตลอดจนเรื่อง....
เครือข่ายสังคมประเภทเผยแพร่ตัวตน
(Identity
Network)
สังคมครือข่ายประเภทนี้ใช้สำหรับให้ผู้เข้าใช้งาน
ได้มีพื้นที่ในการสร้างตัวตนขึ้นมาบน Website และสามารถที่จะเผยแพร่เรื่องราวของตนผ่านทางอินเทอร์เน็ต
โดยประเภทของการเผยแพร่อาจจะเป็นรูปภาพ วีดีโอ การเขียนข้อความลงใน BLOG ซึ่งในสังคมประเภทนี้ สามารถที่จะสร้างกลุ่มเพื่อนขึ้นมาได้อย่างมากมาย
ไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งผู้ให้บริการสังคมเครือข่ายประเภทนี้ได้แก่ My Space,
Hi5, Facebook
การเขียนบทความได้อย่างเสรี
การเขียนบทความได้อย่างเสรี
ซึ่งอาจจะถูกนำมาใช้ได้ใน 2 รูปแบบ ได้แก่
บล็อก (blog) เป็นคำรวมมาจากคำว่า
เว็บล็อก ( weblog) เป็นรูปแบบเว็บไซต์ประเภทหนึ่ง
ซึ่งถูกเขียนขึ้นในลำดับที่เรียงตามเวลาในการเขียน บล็อกโดยปกติจะประกอบด้วย
ข้อความ ภาพ ลิงก์ ซึ่งบางครั้งจะรวมสื่อต่างๆ ไม่ว่า เพลง
หรือวิดีโอในหลายรูปแบบได้ บล็อกจะเปิดให้ผู้เข้ามาอ่านข้อมูล
สามารถแสดงความคิดเห็นต่อท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็นคนเขียน
ซึ่งทำให้ผู้เขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที คำว่า "บล็อก"
ยังใช้เป็นคำกริยาได้ซึ่งหมายถึง การเขียนบล็อก
และนอกจากนี้ผู้ที่เขียนบล็อกเป็นอาชีพก็จะถูกเรียกว่า "บล็อกเกอร์"บล็อกเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหลากหลายขึ้นอยู่กับเจ้าของบล็อก
โดยสามารถใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร การประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น
การเผยแพร่ผลงาน ในหลายด้านไม่ว่า อาหาร การเมือง เทคโนโลยี หรือข่าวปัจจุบัน
นอกจากนี้บล็อกที่ถูกเขียนเฉพาะเรื่องส่วนตัวหรือจะเรียกว่าไดอารีออนไลน์ ซึ่งไดอารีออนไลน์นี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้บล็อกในปัจจุบัน
นอกจากนี้ตามบริษัทเอกชนหลายแห่งได้มีการจัดทำบล็อกของทางบริษัทขึ้น
เพื่อเสนอแนวความเห็นใหม่ใหักับลูกค้า
โดยมีการเขียนบล็อกออกมาในลักษณะเดียวกับข่าวสั้น
และได้รับการตอบรับจากทางลูกค้าที่แสดงความเห็นตอบกลับเข้าไป เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์
ความนิยมของบล็อก
บล็อกได้เริ่มมีบทบาทมากขึ้นในปัจจุบันในวงการสื่อมวลชนในหลายประเทศ
เนื่องจากระบบแก้ไขที่เรียบง่าย
และสามารถตีพิมพ์เรื่องราวได้โดยไม่ต้องใช้ความรู้ในการเขียนเว็บไซต์ โดยนอกเหนือจากที่ผู้เขียนข่าวส่งผลงานให้กับทางสื่อแล้ว
ยังได้มาเขียนข่าวในอีกช่องทางหนึ่งในการเผยแพร่ข้อมูล หรือแนวความคิด
โดยการเขียนบล็อกสามารถเผยแพร่ข้อมูลสู่ประชาชนได้รวดเร็วและเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า
สื่อในด้านอื่น ข่าวที่นิยมในการเขียนบล็อกต่อสื่อมวลชน
ส่วนใหญ่จะเป็นในลักษณะเรื่องซุบซิบวงการดารา ข่าวการเคลื่อนไหวทางการเมือง
เป็นต้น
จากความนิยมที่มากขึ้น
ทำให้หลายเว็บไซต์เปิดให้มีส่วนการใช้งานบล็อกเพิ่มขึ้นมาในเว็บของตนเอง
เพื่อเรียกให้มีการเข้าสู่เว็บไซต์มากขึ้นทั้งผู้เขียนและผู้อ่าน
การใช้งานบล็อก
ผู้ใช้งานบล็อกจะแก้ไขและบริหารบล็อกผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์เหมือนการใช้งานและอ่านเว็บไซต์ทั่วไป
โดยจะมีรูปแบบบริหารบล็อกที่แตกต่างกัน เช่นบางระบบที่มีบรรณาธิการของบล็อก
ผู้เขียนหลายคนจะส่งเรื่องเข้าทางบล็อก
และจะต้องรอให้บรรณาธิการอนุมัติให้บล็อกเผยแพร่ก่อน บล็อกถึงจะแสดงผลในเว็บไซต์นั้นได้
ซึ่งจะแตกต่างจากบล็อกส่วนตัวที่จะให้แสดงผลได้ทันที
ผู้เขียนบล็อกในปัจจุบันจะใช้งานบล็อกในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งไม่ว่า
ติดตั้งซอฟต์แวร์ของตัวเอง หรือใช้งานบล็อกผ่านทางเว็บไซต์ที่ให้บริการบล็อก
สำหรับผู้อ่านบล็อกจะใช้งานได้ในลักษณะเหมือนอ่านเว็บไซต์ทั่วไป
และสามารถแสดงความเห็นได้ในส่วนท้ายของแต่ละบล็อกโดยอาจจะต้องผ่านการลงทะเบียนในบางบล็อก
นอกจากนี้ผู้อ่านบล็อกสามารถอ่านบล็อกได้ผ่านระบบฟีด ซึ่งมีให้บริการในบล็อกทั่วไป
ทำให้ผู้ใช้สามารถอ่านบล็อกได้โดยตรง ผ่านโปรแกรมตัวอื่นโดยไม่จำเป็นต้องเข้ามาสู่หน้าบล็อกนั้น
อนึ่ง
การใช้งานระบบสังคมบล็อก มีเนื้อหาของการนำเสนอ โดยจะต้องเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ
ผู้นำเสนอ ระหว่างผู้ใช้งานด้วยกัน ไม่อาจจะทำการสำเนา เอกสารดังกล่าวได้
เพียงแต่สามารถทำการลิงก์เชื่อมโยง เพื่อส่งผลโดยตรงต่อผู้ใช้งานทั่วไป ให้สามารถใช้งานระบบได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด
ไมโครบล็อก (Micro Blog)
เครือข่ายสังคมออนไลน์ประเภทนี้มีลักษณะเด่นโดยการให้ผู้ใช้โพสต์ข้อความ
จำนวนสั้นๆ ผ่านเว็บผู้ให้บริการ
และสามารถกำหนดให้ส่งข้อความนั้นๆไปยังโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ เช่น Twitter
ผู้ให้บริการสังคมเครือข่ายสังคมประเภทเผยแพร่ตัวตน
สังคมเครือข่ายในปัจจุบันประเภทเผยแพร่ตัวตน
มีอยู่มากมายหลากหลาย Website
อย่างที่เรารู้จักกันดีก็ Facebook Hi5 Twitter
“เฟซบุ๊ก
( Facebook)”
“เฟซบุ๊ก
(
Facebook)” เป็นบริการเครือข่ายสังคมอีกwebsiteหนึ่งที่จัดอยู่ในประเภทเผยแพร่ตัวตนที่มีคนใช้มากและเป็นที่นิยมอยู่ในตอนนี้
ประวัติ
เฟซบุ๊ก (ชื่อดั้งเดิม thefacebook) เป็นบริการเครือข่ายสังคมที่ยังเปิดให้บริการอยู่ สำนักงานใหญ่อยู่ที่
เมนโลพาร์ก, รัฐแคลิฟอร์เนีย.
ซึ่งมันเป็นชื่อที่ใช้ในการสื่อสารหรือป้ายบอกทางแก่เหล่านักศึกษาในบางมหาวิทยาลัยอเมริกัน.
เฟซบุ้กก่อตั้งเมื่อวันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ , ค.ศ.
2004, โดยมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก และเพื่อนร่วมห้องภายในมหาวิทยาลัย
และเหล่าเพื่อนในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พร้อมโดยสมาชิกเพื่อนผู้ก่อตั้ง Eduardo
Saverin, Andrew McCollum, Dustin Moskovitz และ Chris
Hughes ในท้ายที่สุดเว็บไซต์มีการเข้าชมอย่างจำกัด
ทำให้เหล่านักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด, แต่ภายหลังได้ขยายเพิ่มจำนวนในมหาวิทยาลัย
ในพื้นที่บอสตัน , ไอวีลีก , และ
มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และค่อยๆรับรองมหาวิทยาลัยอื่นต่างๆ
และต่อมาก็รับรองโรงเรียนมัธยมศึกษา. โดยเฟซบุ๊กให้การอนุญาตให้เยาวชนอายุต่ำกว่า
13 ปีทั่วโลกสามารถสมัครสมาชิกได้ภายในเว็บไซต์ , โดยไม่ต้องอ้างอิงหลักฐานใดๆ
จากการศึกษาของเว็บ คอมพีต.คอม ในเดือนมกราคม
ค.ศ. 2009 เฟซบุ๊กถือเป็นบริการเครือข่ายสังคมที่มีคนใช้มากที่สุด
เมื่อดูจากผู้ใช้ประจำรายเดือน รองลงมาคือ มายสเปซเอ็นเตอร์เทนเมนต์วีกลี
ให้อยู่ในรายชื่อ สิ่งที่ดีที่สุดในสิ้นทศวรรษและควอนต์แคสต์ ประเมินว่า เฟซบุ๊ก
มีผู้ใช้ต่อเดือนราว 135.1 ล้านคน นับเฉพาะในสหรัฐอเมริกา
ข้อมูล ณ วันที่ 4
มกราคม พ.ศ. 2554 จากเฟซบุ๊กมีจำนวนสมาชิกทั้งหมด584,628,480 สมาชิกทั่วโลก โดยเป็นสมาชิกจากประเทศไทย รวม 6,914,800 สมาชิก
ความหมายของเฟชบุ๊ค
(Facebook)
“เฟชบุ๊ค (Facebook)” สังคมครือข่ายประเภทนี้ใช้สำหรับให้ผู้เข้าใช้งาน
ได้มีพื้นที่ในการสร้างตัวตนขึ้นมาบน Website และสามารถที่จะเผยแพร่เรื่องราวของตนผ่านทางอินเทอร์เน็ต
โดยประเภทของการเผยแพร่อาจจะเป็นคือ บริการบนอินเทอร์เน็ตบริการหนึ่ง
ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถติดต่อสื่อสารและร่วม ทำกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งหรือหลายๆ
กิจกรรมกับผู้ใช้ Facebook คนอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการตั้ง
ประเด็นถามตอบในเรื่องที่สนใจ โพสต์รูปภาพ โพสต์คลิปวิดีโอ เขียนบทความหรือบล็อก
แชทคุยกันแบบสดๆ เล่นเกมส์แบบเป็นกลุ่ม และยังสามารถทำกิจกรรมอื่นๆ
ผ่านแอพลิเคชั่นเสริม (Applications) ที่มีอยู่อย่างมากมาย
ซึ่งแอพลิเคชั่นดังกล่าวได้ถูกพัฒนาเข้ามาเพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆ Facebook เป็น social network ที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งในโลก
ซึ่งถ้าใน ต่างประเทศ ความยิ่งใหญ่ของ facebook มีมากกว่า Hi5 เสียอีก แต่ในประเทศไทยของเรา Hi5 ยัง
ครองความเป็นเจ้าในด้าน social network ในหมู่คนไทย
ประโยชน์ของเฟชบุ๊ค
1.ใช้สื่อสารด้วยข้อความกับเพื่อน
ๆ ได้สะดวก และช่วยให้ประหยัดค่าโทรศัพท์ได้มากทีเดียว เราสามารถสื่อสารกับเพื่อน
ๆ ได้โดยการโพส หรือส่งข้อความผ่านทาง messenger
2.การจัดกลุ่มช่วยให้คุณสื่อสารได้ดีขึ้น
เช่น กลุ่มเพื่อนสนิท,
กลุ่มคนรู้จัก และกลุ่ม อื่นๆ ที่คุณสามารถจัดกลุ่ม และตั้งชื่อได้
ทำให้เราสามารถเลือกโพสข้อความเฉพาะกลุ่มได้
3.สำหรับคนที่ต้องการเปิดร้าน
ไม่ว่าจะหน้าเก่าหรือหน้าใหม่ก็ตาม การสร้างเพจถือเป็นเรื่องที่ต้องศึกษา
เพราะมีคนใช้ Facebook
เพิ่มขึ้นทุกวัน
4.การสร้างกลุ่ม
ในที่นี้หมายถึงกลุ่มที่สร้างขึ้น และเชิญเพื่อน ๆ ให้เป็นสมาชิกของกลุ่ม เช่น
กลุ่มคนรักกล้องถ่ายรูป,
กลุ่มคนรักปลาสวยงาม เป็นต้น
การสร้างกลุ่มก็คือการรวมตัวกันของคนที่ชอบอะไรเหมือน ๆ กัน
เฟชบุ๊ค(facebook) เป็นwebsiteที่ผู้ใช้
ใช้เป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ตัวตนที่มีความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะเป็นช่องทางที่สะดวก
รวดเร็ว ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายอีกด้วย
ไฮไฟว์( Hi5)
“ไฮไฟว์( Hi5)” เป็นเว็บไซต์ในลักษณะเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดติดอันดับ
1 ใน 10 ของโลก
มีจำนวนสมาชิกลงทะเบียนใช้งานอยู่กว่า 65 ล้านรายทั่วโลก
สมาชิกส่วนใหญ่ใช้ไฮไฟฟ์ในการติดต่อสื่อสารกับกลุ่มเพื่อน แลกเปลี่ยนประสบการณ์
แชร์รูปภาพกันดู ในแต่ละวันจะมีสมาชิกเข้ามาใช้บริการจากทั่วโลกนับล้านราย
โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ประวัติของไฮไฟว์( Hi5)
ลามู ยาละมันชัย นักศึกษาปริญญาตรีชาวอเมริกา
ได้ร่วมกับเพื่อน ๆ ในมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์
เออร์แบนา-แชมเปญจน์ที่เรียนปริญญาตรีทางด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ก่อตั้ง SponsorNet New Media ธุรกิจตัวแทนโฆษณาบนอินเทอร์เน็ต ในปี 2004 (ปี 2547) โดยยาละมันชัย
ได้เห็นว่าระบบการโฆษณาผ่านแบนเนอร์แบบเก่า ๆ ที่อาจไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย
และพฤติกรรมการสร้างอัลบั้มรูปแล้วพูดคุยกัน
การเกิดกลุ่มเพื่อนที่คอยอัปเดตข่าวแต่ละคนทางอินเทอร์เน็ต
จึงได้เกิดเป็นเว็บไซต์ไฮไฟฟ์( Hi5)
ไฮไฟว์( Hi5) เป็นเว็บไซต์ประเภท Social
Network หรืออาจเรียกในภาษาไทยว่า “เครือข่ายสังคม”
คือบริการผ่านเว็บไซต์ที่เป็นจุดโยงระหว่างบุคคลแต่ละคนที่มีเครือข่ายสังคมของตัวเองผ่านเน็ตเวิร์คอินเทอร์เน็ต
รวมทั้งเชื่อมโยงบริการต่างๆ อย่าง เมล์ เมสเซ็นเจอร์ เว็บบอร์ด บล็อก ฯลฯ
เข้าด้วยกันโดยคนที่ลงทะเบียนสมัครจะกรอกข้อมูลส่วนตัว รูปภาพ อัลบั้มรูป
โดยเชื่อมเครือข่ายสังคมและเครือข่ายมิตรภาพเข้าด้วยกัน ด้วยการแชร์รูป
แชร์ไฟล์ดูกันดังนั้นไฮไฟว์( Hi5) จึงจัดอยู่ในเครือข่ายสังคมแบบเผยแพร่ตัวตนเหมือนกับเฟชบุ๊ค
ความนิยมและกลุ่มผู้ใช้ไฮไฟว์( Hi5)
จากการสำรวจข้อมูลของคนไทยที่ใช้ไฮไฟว์( Hi5)
ในช่วงเดือน ธันวาคม พ.ศ. 2550 พบว่า ที่มีการเล่นมากที่สุดอยู่ที่ช่วงอายุ 18-24
ปี เป็นสัดส่วนถึง 42.19%
โดยสัดส่วนของผู้หญิงและผู้ชายก็จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน
โดยที่สัดส่วนของผู้เล่นเพศหญิงจะมากกว่าเล็กน้อย
ไฮไฟว์( Hi5)
เป็นเว็บไซต์ประเภท Social
Network จัดอยู่ในเครือข่ายสังคมแบบเผยแพร่ตัวตนเหมือนกับเฟชบุ๊ค สมาชิกส่วนใหญ่ใช้ไฮไฟฟ์ในการติดต่อสื่อสารกับกลุ่มเพื่อน
แลกเปลี่ยนประสบการณ์ แชร์รูปภาพกันดู
ในแต่ละวันจะมีสมาชิกเข้ามาใช้บริการจากทั่วโลกนับล้านราย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ทวิตเตอร์ (Twitter)
ทวิตเตอร์ (Twitter) เป็นบริการเครือข่ายสังคมออนไลน์จำพวกไมโครบล็อก
โดยผู้ใช้สามารถส่งข้อความยาวไม่เกิน 140 ตัวอักษร ว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่
โดยเรียกการส่งข้อความนี้ว่า ทวีต (Tweet) ซึ่งแปลว่า
เสียงนกร้อง
ประวัติของทวิตเตอร์
ทวิตเตอร์ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.
2549 โดย แจ็ก ดอร์ซี,
บิซ สโตน และอีวาน วิลเลียมส์ เจ้าของบริษัทอ็อบวีโออุส และต่อมาในเดือนกรกฎาคม
ก็ได้เปิดตัวเว็บไซต์สังคมออนไลน์ ซึ่งต่อมาได้รับความนิยมจากทั่วโลก
โดยมีผู้ใช้ที่ลงทะเบียนเข้าใช้มากกว่า 500 ล้านคนในปี พ.ศ. 2555
รวมไปถึงมีทวีตมากกว่า 340 ล้านทวีตต่อวัน และมีการค้นหาข้อมูลผ่านเว็บไซต์มากกว่า
1,600 ล้านครั้งต่อวัน นับตั้งแต่วันเปิดตัว ทวิตเตอร์เป็นเว็บไซต์ 1 ใน 10
อันดับที่มีผู้เข้าใช้งานมากที่สุด
โดยได้รับการขนานนามว่าเป็นเว็บไซต์สำหรับการส่งบริการข้อความสั้น บนอินเทอร์เน็ต ซึ่งในภายหลัง
นอกจากที่จะสามารถทวีตบนเว็บไซต์แล้ว ได้มีการเปิดให้ใช้งานการส่งทวีต
ด้วยการส่งบริการข้อความสั้น (SMS) และบนโปรแกรมประยุกต์
ในโทรศัพท์มือถือ และสมาร์ตโฟน
ตัวระบบซอฟต์แวร์ของทวิตเตอร์ เดิมพัฒนาด้วย
รูบีออนเรลส์จนเมื่อราวสิ้นปี ค.ศ. 2008 จึงได้เปลี่ยนมาใช้ภาษา Scala บนแพลตฟอร์มจาวา
ค.ศ. 2009
ทวิตเตอร์ได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างมาก จนนิตยสารไทม์ ฉบับวันที่ 15 มิ.ย. 2009
ได้นำเอาทวิตเตอร์ขึ้นปก เป็นเรื่องเด่นประจำฉบับ
และบทบรรณาธิการกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงการนำเสนอข่าว
ที่มีที่มาจากเทคโนโลยีใหม่อย่างทวิตเตอร์
ประโยชน์ของทวิตเตอร์
(Twitter)
:
1.เพื่อนฝูงรู้ Status คุณและไม่ขาดการติดต่อกับเพื่อนฝูง
ในทวิตเตอร์ สามารถเขียนข้อความเกี่ยวกับตัวคุณในปัจจุบันว่ากำลังทำอะไร
อยู่ที่ไหน เพื่อนๆ ที่ติดตามคุณ (Followers) ก็จะรู้ได้
และในขณะเดียวกันคนอื่นที่คุณติดตามอยู่ (Following) คุณก็สามารถรู้
Status ของเขาได้ด้วยเช่นกัน
2.ได้ความรู้ใหม่ๆ
เพิ่มขึ้น จากบุคคลที่เรา Following
เช่น ถ้าบุคคลที่เราติดตามมีการอับเดทข้อความที่เป็นสาระความรู้
และหากมีลิงค์ไปยังแหล่งข้อมูลนั้นด้วย
คุณก็สามารถคลิกไปดูแหล่งข้อมูลความรู้นั้นได้เลย
3.ติดตามข่าว
คุณสามารถอ่านรายงานสดจากยูสเซอร์ของทวิตเตอร์คนอื่นๆ
ที่อยู่ในเหตุการณ์หรือสถานที่เกิดเหตุ และยังสามารถติดตามอ่านข่าวจาก CNN
(www.twitter.com/cnn หรือเรียกย่อๆ ว่า @CNN) ติดตามอ่านข่าวจาก@NYTimes, @BreakingNewsOn, @nprnews,
@weirdnews, @MarsPhoenix, @Astronautics ฯลฯ
4.เป็นช่องทางติดต่อกับบริษัทผู้ผลิต
บริษัทมากมายล้วนแล้วแต่มีแอ็กเคานต์ทวิตเตอร์ให้คุณใช้ในการติดต่อ
คุณสามารถใช้ทวิตเตอร์เป็นช่องทางในการร้องเรียนได้หรือสอบถามได้
บริษัทใหญ่ที่มีแอ็กเคานต์ของทวิตเตอร์ เช่น Zappos, Starbucks, Whole Foods, JetBlue และอื่นๆ อีกมาก
5.ขอความช่วยเหลือ ลักษณะเดียวกับบล็อกหรือฟอรัม
ทวิตเตอร์คือสถานที่ที่เหมาะอีกแห่งหนึ่ง สำหรับการตั้งคำถาม
ที่คุณไม่อยากจะไปค้นหาคำตอบ ด้วยตัวเอง รวมไปถึงการขอความช่วยเหลือ โอเว่น
ริ้งเคิ้ล ผู้พัฒนาทวิตเตอร์บอกกับเราว่า ปัญหาที่คุณเคยใช้เวลาคิด 5 นาที
อาจได้คำตอบออกมาภายในเวลา 10 วินาทีบนทวิตเตอร์
แต่นี่หมายถึงอย่างน้อยคุณต้องมีเพื่อนๆ ในชีวิตจริงตามดู (follow) ทวิตเตอร์ของคุณอยู่ และแน่นอนว่าถ้าจะให้เกิดประโยชน์สูงสุด
คุณก็ควรตามดูทวิตเตอร์ของเพื่อนด้วย เพื่อเป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
6.โปรโมติผลงาน/เว็บไซต์ของคุณหรือของบริษัทคุณ
หรือแนะนำเว็บไซต์อื่นๆ ที่น่าสนใจ
ทวิตเตอร์เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการโปรโมติผลงาน, ประชาสัมพันธ์
หรือแนะนำเว็บไซต์ และพยายามให้มีลิงค์โปรโมติแต่พอควร
ไม่ควรให้มีมากเกินเพราะจะทำให้คนอื่นรำคาญ และไม่ติดตามคุณอีก
7.ได้รู้จักทั้งคนดังและหรือไม่ดัง
และคนที่คุณอยากรู้จัก และสามารถหา Search ด้วยตัวคุณเองในช่อง Searchไปยังหน้าเว็บของ Twitter.com
ทวิตเตอร์ (Twitter) เป็นบริการเครือข่ายสังคมออนไลน์จำพวกไมโครบล็อก
สามารถเขียนข้อความเกี่ยวกับตัวคุณในปัจจุบันว่ากำลังทำอะไร อยู่ที่ไหน เพื่อนๆ
ที่ติดตามคุณ (Followers) ก็จะรู้ได้
และในขณะเดียวกันคนอื่นที่คุณติดตามอยู่ (Following) คุณก็สามารถรู้
Status ของเขาได้ด้วยเช่นกัน
บทสรุป
เครือข่ายสังคมออนไลน์นับได้ว่าเป็นช่องทางหนึ่งในการติดต่อสื่อสาร
แสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนข้อมูล และทำกิจกรรมต่างๆ ที่มีการเชื่อมโยงกันเพื่อสร้างเครือข่ายในการตอบสนอง
ความต้องการทางสังคมที่มุ่งเน้นในการสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมของมนุษย์
ถือได้ว่าเป็นส่วนประกอบส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ยุคเทคโนโลยี
ดังนั้นเราในฐานะผู้ใช้จักต้องรู้ให้เท่าทันเครือข่ายสังคมออนไลน์
และควรที่จะต้องรู้จักหน้าที่ของตนเองในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม
หากเรารู้จักหน้าที่และปฏิบัติตนได้ตามหน้าที่แล้วนั้นสังคมที่เราอยู่ย่อมเป็นสังคมที่สงบสุข
เครือข่ายสังคมประเภทเผยแพร่ตัวตน (Identity Network)สังคมครือข่ายประเภทนี้ใช้สำหรับให้ผู้เข้าใช้งาน
ได้มีพื้นที่ในการสร้างตัวตนขึ้นมาบน Website และสามารถที่จะเผยแพร่เรื่องราวของตนผ่านทางอินเทอร์เน็ต
การเขียนบทความได้อย่างเสรี ซึ่งอาจจะถูกนำมาใช้ได้ใน 2 รูปแบบ คือ บล็อก(blog)และไมโครบล็อก(Microblog)ซึ่งผู้ให้บริการสังคมเครือข่ายประเภทนี้ได้แก่
Facebook, Hi5, Twitter เป็นต้น
การศึกษาค้นคว้าถึงเรื่อง “เครือข่ายสังคมประเภทเผยแพร่ตัวตน
(Identity Network)” ตั้งแต่…และ……ทำให้รู้ว่าเครือข่ายสังคมประเภทเผยแพร่ตัวตน (Identity Network)นั้นมีประโยชน์กับผู้ใช้มาก ถือได้ว่าเป็นส่วนประกอบส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ยุคเทคโนโลยี
แต่ก็มีโทษเหมือนกัน ถ้าผู้ใช้ ใช้ในทางที่ผิด
ดังนั้นเราในฐานะผู้ใช้จักต้องรู้ให้เท่าทันเครือข่ายสังคมออนไลน์
และใช้งานสังคมเครือข่ายประเภทนี้อย่างปลอกภัย และเกิดประโยชน์สูงสุด
อ้างอิง
http://th.wikipedia.org/wiki/ทวิตเตอร์
http://www.microbrand.co/social-network-คืออะไร-ใช้งานอย่างไร/
วันศุกร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2560
บทความการใช้งาน การใช้งาน L298N motor drive
บทความการใช้งาน
การใช้งาน L298N motor
drive
เมื่อพูดถึงการใช้งานมอเตอร์กระแสตรงแล้ว
หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะนึกถึง หุ่นยนต์ หรือแม้กระทั่งรถบังคับ
ส่วนใหญ่จะใช้มอเตอร์เป็นตัวขับเคลื่อนการทำงาน เช่น การเคลื่อนที่ของรถ บังคับ
หรือ แม้กระทั่งใช้เป็นกลไกในการทำงานของของหุ่นยนต์ เมื่อพูดถึงมอเตอร์ การที่จะต้องใช้งานมอเตอร์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพทั้ง
การควบคุมความเร็วรอบของมอเตอร์และการควบคุมการหมุนทวนเข็มและตามเข็ม
สิ่งเหล่านี้ทำได้ แต่ต้องมีโมดูลเสริมหรือตัวกำหนดตัวแปรที่จะทำให้สามารถควบคุมการทำงานของมอเตอร์ได้
ซึ่งโมดูลที่ใช้ได้มีด้วยกันหลายรุ่น แต่ในที่นี้จะขอยกตัวอย่างเอารุ่น L298N motor drive มาเป็นกรณีศึกษา
L298N เป็นชุดขับมอเตอร์ชนิด H-Bridge ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้ในการควบคุมทิศทางและความเร็วของมอเตอร์
ซึ่งสามารถควบคุมมอเตอร์ได้ทั้งหมด 2 Channel
หลักการทำงาน
วงจร H-Bridge
ของ L298N จะขับกระแสเข้ามอเตอร์
ตามขั้วที่กำหนดด้วยลอจิกเพื่อควบคุมทิศทาง ส่วนความเร็วของมอเตอร์นั้นจะถูกควบคุมด้วย
สัญญาณ (PWM Pulse Width Modulation)
PWM หมายถึง
การควบคุมช่วงจังหวะการทำงานของอิเล็กตรอน
ลองจินตนาการถึงแปรงขดลวดในมอเตอร์เป็นระหัดวิดน้ำและอิเล็กตรอนเป็นน้ำที่ตกลงมาจากระหัดวิดน้ำ
ค่าแรงดันไฟฟ้าก็คล้ายกับกระแสน้ำที่ไหลผ่านระหัดวิดน้ำด้วยความเร็วคงที่
ยิ่งกระแสน้ำไหลเร็วเท่าไรก็จะหมายความว่าแรงดันไฟฟ้ายิ่งสูงขึ้น
แต่มอเตอร์มีอัตราความเร็วคงที่และสามารถเสียหายได้หากมีแรงดันไฟฟ้าสูงไหลผ่านหรือหยุดทันทีเพื่อที่จะหยุดมอเตอร์
ดังนั้น PWM
คล้ายกับการควบคุมระหัดวิดน้ำให้ตักน้ำในจังหวะคงที่ที่กระแสน้ำคงที่
ยิ่งระหัดวิดน้ำหมุนเร็วเท่าไรช่วงของ pulse ก็จะยาวขึ้น
ในทางกลับกันถ้าระหัดวิดน้ำหมุนช้าช่วงของ pulse จะสั้นลง
ดังนั้นเพื่อยืดอายุการใช้งานของมอเตอร์จึงควรที่จะควบคุมมอเตอร์ด้วย PWM
พิจารณาโครงสร้างโค้ดคร่าวๆของ
Arduino
โค้ดการทำงานของ Arduino
มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังไม่มีสร้าง library ที่เกี่ยวกับตัว L298N Dual H-Bridge เพื่อควบคุมมอเตอร์ดังนั้นผู้ใช้งานจึงต้องประกาศพินเพื่อใช้งานขึ้นมาเอง
สามารถใช้โค้ด int dir(number)Pin(letter) ต่อเข้ากับพินดิจิตอลที่เลือกใช้
แค่นี้ก็สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและช่วยให้ตัว L298N
Dual H-Bridge ควบคุมมอเตอร์ได้อย่างอเนกประสงค์ถ้าบอร์ด Arduino
ที่เลือกใช้งานมีพินหลายตัว
และถ้าต้องการปรับความเร็วของมอเตอร์ด้วย PWM สามารถใช้คำสั่ง
int speedPin(letter) แล้วต่อเข้ากับพินที่เลือกใช้ หากต้องการวิธีลัดเพื่อใช้งาน
PWM ย่างรวดเร็วสามารถเลือกพินใช้งานได้ตามรายการด้านล่าง
AT MEGA –PWM 2-13 และ 44-46 ตั้งค่าเอาท์พุทของ PWM ให้เป็น 8
bit ด้วยฟังก์ชั่น analogWrite()
UNO-PWM 3,
5, 6, 9, 10 และ 11 ตั้งค่าเอาท์พุทของ PWM ให้เป็น 8 bit
ด้วยฟังก์ชั่น analogWrite()
รูปที่
1 แสดงรายละเอียดของบอร์ด
รายละเอียดของบอร์ด
§ Out 1: ช่องต่อขั้วไฟของมอเตอร์
A
§ Out 2: ช่องต่อขั้วไฟของมอเตอร์ A
§ Out 3: ช่องต่อขั้วไฟของมอเตอร์ B
§ Out 4: ช่องต่อขั้วไฟของมอเตอร์ B
§ 12V: ช่องจ่ายไฟเลี้ยงมอเตอร์ 12V (ต่อได้ตั้งแต่ 5V ถึง 35V)
§ GND: ช่องต่อไฟลบ (Ground)
§ 5V: ช่องจ่ายไฟเลี้ยงมอเตอร์ 5V (หากมีการต่อไฟเลี้ยงที่ช่อง 12V
แล้ว
§ ช่องนี้จะทำหน้าที่จ่ายไฟออก
เป็น 5V Output
§ สามารถต่อไฟจากช่องนี้ไปเลี้ยงบอร์ด
Arduino ได้
§ ENA: ช่องต่อสัญญาณ PWM สำหรับมอเตอร์
A
§ IN1: ช่องต่อสัญญาณลอจิกเพื่อควบคุมทิศทางของมอเตอร์ A
§ IN2: ช่องต่อสัญญาณลอจิกเพื่อควบคุมทิศทางของมอเตอร์ A
§ IN3: ช่องต่อสัญญาณลอจิกเพื่อควบคุมทิศทางของมอเตอร์ B
§ IN4: ช่องต่อสัญญาณลอจิกเพื่อควบคุมทิศทางของมอเตอร์ B
§ ENB: ช่องต่อสัญญาณ PWM สำหรับมอเตอร์ B
สเปกทางเทคนิค
· Dual
H bridge Drive Chip : L298N
· แรงดันสัญญาณลอจิก
: 5V
Drive voltage: 5V-35V
· กระแสของสัญญาณลอจิก
: 0-36mA
· กระแสขับมอเตอร์
: สูงสุดที่ 2A (เมื่อใช้มอเตอร์เดียว)
· กำลังไฟฟ้าสูงสุด
: 25W
· ขนาด
: 43
x 43 x 26 มิลลิเมตร
· น้ำหนัก
: 26 กรัม
*มี Power Supply 5V
ในตัว สามารถจ่ายไฟออกจากช่อง 5V (เพื่อจ่ายให้บอร์ด
Arduino) ได้ เมื่อต่อไฟเลี้ยงเข้าที่ช่อง 12V
อุปกรณ์
1.Arduino
UNO R3
2.
DC
Motor 1ตัว
3.
L298 Motor Drive Module
การต่อเข้าใช้งานกับ Arduino
ในการต่อกับ Arduino
นั้น ขา IN1,IN2,IN3 และ IN4 นั้น สามารถต่อกับพอร์ต Digital ใดๆก็ได้ เนื่องจาก 4 ขานี้ จะใช้ในการควบคุมสัญญาณลอจิกบอกทิศทางให้กับมอเตอร์
ส่วน ENA และ ENB นั้น จำเป็นที่จะต้องต่อกับพอร์ต
Digital ที่รองรับ PWM เนื่องจากจะต้องใช้สัญญาณ
PWM ในการควบคุมความเร็วของมอเตอร์
รูปที่
2 แสดงการต่อใช้งานอุปกรณ์
ตัวอย่างโปรแกรม
// Declare L298N
Dual H-Bridge Motor Controller directly since there is not a library to load.
// Motor 1
int dir1PinA = 4;
int dir2PinA = 5;
int speedPinA = 10; // Needs to be a PWM pin to be able to control motor speed
void setup() { // Setup runs once per reset
Serial.begin(9600);
//Define L298N Dual
H-Bridge Motor Controller Pins
pinMode(dir1PinA,OUTPUT);
pinMode(dir2PinA,OUTPUT);
pinMode(speedPinA,OUTPUT);
}
void loop() {
// Initialize the
Serial interface:
int speed; // Local
variable
analogWrite(speedPinA,
255);//Sets speed variable via PWM
digitalWrite(dir1PinA, LOW);
digitalWrite(dir2PinA, HIGH);
Serial.println("Motor 1
Forward");
}
อ้างอิง
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)